วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

ประวัติความเป็นมาของเครปเค้กสายรุ้ง

ประวัติความเป็นมาของเครปเค้กสายรุ้ง
ประวัติความเป็นมา
“ขนมเค้ก” (cake) เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มักจะมีรสหวานและผ่านกระบวนการอบ ซึ่งจะทำมาจากแป้ง น้ำตาล และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ไข่ ผัก และผลไม้ที่ให้รสหวานหรือเปรี้ยว หรือส่วนประกอบที่มีไขมัน เช่น เนย ชีส ยีสต์ นม เป็นต้น และนิยมรับประทานเป็นของหวาน และฉลองในเทศกาลต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเกิดและวันแต่งงาน ซึ่งในโลกมีตำรับหรือสูตรการทำเค้กเป็นจำนวนล้านๆ สูตร ขนมเค้กมีหลากหลายชนิด อาทิ ชีสเค้ก ฟรุตเค้ก แพนเค้ก เค้กเนยสด และแยมโรล เป็นต้น 


ขนมเค้ก มีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวไวกิ้ง (Old Norse word) มาจากคำว่า "kaka" ประวัติเริ่มจากปี ค.ศ. 1843 นักเคมีชาวอังกฤษชื่อ อัลเฟรดเบิร์ด (Alfred Bird 1811-1878) ได้ค้นพบ "ผงฟู" (baking powder) ขึ้น ทำให้เขาสามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ได้เป็นครั้งแรก ทั้งนี้เนื่องมาจากภรรยาของเขา (Elizabeth) เป็นโรคภูมิแพ้อาหารที่มีส่วนผสมของไข่และยีสต์


สำหรับประวัติขนมเค้กในประเทศไทยนั้น ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2480 ขนมเค้กยังไม่เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปมากนัก จะมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้รับอารยธรรมตะวันตกหรือใกล้ชิดกับชาวต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจ โดยร้านเบเกอรี่ (bakery) ในกรุงเทพฯ มีอยู่ไม่มากนัก ร้านที่เป็นที่รู้จักย่านถนนเจริญกรุงคือร้านมอนโลเฮียงเบเกอรี่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2490 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ประเทศไทยมีการติดต่อค้าขายทำธุรกิจกับต่างประเทศ และการท่องเที่ยวมีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้มีความต้องการบริโภค ขนมเค้ก ขนมปัง เพสตรี้ เพื่อบริการแก่ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ธุรกิจเบเกอรี่ หรือขนมเค้ก ขนมปัง ขนมคุ๊กกี้ จึงขยายตัวและเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เครป เป็นขนมที่เรียบง่าย ประกอบไปด้วยแป้งสาลี ไข่ น้ำตาล นม เนย นำมาผสมกันแล้วเทลงในกระทะก็ได้แป้งแผ่นกลม สีเหลืองทอง สามารถใส่ไส้เป็นของคาวและหวานได้ตามชอบ ด้วยเหตุที่มีลักษณะทรงกลม สีเหลืองทองคล้ายดวงอาทิตย์นี่เอง ในสมัยก่อนเครปจึงเป็นขนมที่ใช้เสี่ยงทายของสังคมในยุคเกษตรกรรม เชื่อกันว่าถ้าไม่ทำเครปใน วัน ลา ฌองเดอเลอร์ (La Chandeleur) แล้วล่ะก็ ต้นกล้าของข้าวสาลีก็จะเป็นโรคและเหี่ยวเฉาตายไปในที่สุด


☺️☺️แหล่งอ้างอิง☺️☺️
http://crepecakersu.blogspot.com/2014/12/crepe-cake-4.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น